การใช้งบอันน้อยนิดของ นิวคาสเซิ่ล การซื้อขายนักเตะเพียง 35 ล้านปอนด์เท่านั้น

ด้วยสภาวะฝืดเคืองของเศรษฐกิจทั่วโลกทำให้วงการฟุตบอลต้องได้รับผลกระทบไปเช่นกัน แม้ว่าสโมสรอย่างเชลซีหรือแมนเชสเตอร์ ซิตี้ต่างสนุกกับตลาดซื้อขายนักเตะเนื่องจากพวกเขามีกลุ่มทุนหนุนหลัง แต่ว่าสำหรับทีมในภาคอีสานของประเทศอังกฤษกลับไม่เป็นเช่นนั้น สำหรับ นิวคาสเซิ่ล ภายใต้การบริหารของไมค์ แอชลีย์จอมตะหนี่แล้ว เจ้าสาลิกาดงกลับมีงบประมาณในการซื้อขายนักเตะเพียง 35 ล้านปอนด์เท่านั้น

สำหรับ 35 ล้านปอนด์นี้ก็เกิดจากเงินที่เหลือจากตลาดรอบก่อนนั่นเอง จากการที่นิวคาสเซิ่ล มักจะเป็นทีมที่ใช้เงินอย่างประหยัดและมีนโยบายซื้อมาขายไป ซึ่งต้องโละนักเตะที่ไม่ใช้ในทีมก่อนจะสามารถซื้อนักเตะเข้ามาเสริมทีมได้ โดยนักเตะคนแรกที่ทีมสาลิกาดงซื้อมาในตลาดครั้งนี้ก็คือกองกลางสารพัดประโยชน์ชาวไอร์แลนด์อย่างเจฟฟ์ เฮนดริกนั่นเอง ซึ่งถือเป็นการเซ็นสัญญามาแบบไร้ค่าตัวหลังจากที่เจ้าตัวเพิ่งหมดสัญญามาจากเบิร์นลี่ย์นั่นเอง นอกจากนี้พวกเขายังเซ็นสัญญาแบบฟรีๆ กับนักเตะดาวรุ่งอย่างมาร์ค เกเลสพีย์และเนล บรู๊คเวลล์อีกด้วย
ในส่วนของนักเตะคนอื่นๆ ที่นิวคาสเซิ่ลให้ความสนใจก็คือนักเตะจากบอร์นมัธอย่างคัลลัม วิลสันที่พวกเขาต้องแข่งขันกับทีมร่วมลีกอย่างแอสตัน วิลล่าโดยค่าตัวของกองหน้าคนเก่งจะอยู่ที่ 20 ล้านปอนด์รวมถึง ไรอัน เฟรเซอร์ ปีกซ้ายตัวจี๊ดที่เพิ่งหมดสัญญากับทีมเช่นกัน อีกทั้งกองหลังฝั่งซ้ายอย่างจามาลล์ ลูวิชจากทีมตกชั้นอย่างนอริช ซิตี้ที่ได้ตอบรับข้อเสนอมูลค่า 13.5 ล้านปอนด์ไปแล้ว ซึ่งรวมแล้วพวกเขาจะใช้งบประมาณไม่เกิน 35 ล้านปอนด์ตามที่ผู้บริหารนิวคาสเซิ่ลตั้งเป้าไว้

สิ่งที่น่าเป็นห่วงพอๆ กับสถานการณ์การเงินของนิวคาสเซิ่ลก็คือการมีผู้จัดการทีมอย่างสตีฟ บรูซนั่นเอง โดยแฟนบอลส่วนใหญ่มองว่าเขาคือกุณซื้อโบราณที่ไม่มีความสามารถพอจะทำให้ทีมเติบโตไปมากกว่านี้ จนทำให้คนรักสาลิกาดงได้แต่ภาวนาว่าพวกเขาจะมีเจ้าของใหญ่ในอนาคตอันใกล้นี้ก่อนที่ทีมรักจะต้องตกชั้นลงไปอีกรอบหนึ่งนั่นเอง
ติดตามข่าวฟุตบอลข่าวนักเตะและติดตามแฟรงค์ แลมพาร์ด ขอพูดบ้าง ได้ตัว “ฮาแวร์ตซ์” คว้าถ้วยพรีเมียร์ลีกได้ชัวร์