บทสรุปส่งท้าย ‘พรีเมียร์ลีก’ 2019/20 ฤดูกาลมากเรื่องราว

ในที่สุดก็มาถึงบทสรุปของ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2019/20 ที่แสนยาวนานนี้ ซึ่งต้องถือว่าเป็นฤดูกาลเต็มไปด้วยเรื่องราวมากมายเช่นเคย อาจเป็นฤดูกาลที่น่าจดจำสำหรับบางทีมใน พรีเมียร์ลีก และไม่น่าจดจำสำหรับบางทีม แต่หนึ่งในเรื่องราวของ ‘โควิด’ คงไม่มีทีมไหนที่อยากจดจำ แต่ก็นั่นล่ะครับ ชีวิตต้องเดินต่อไป ฟุตบอลก็เช่นกัน

‘หงส์แดง’ ลิเวอร์พูล เถลิงคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี ที่พวกเขาคว้าแชมป์ลีกสูงสุด และจะให้เครดิตใครไปไม่ได้นอกจาก ‘เยอร์เก้น คล็อปป์’ ที่ได้โชว์พาวอีกครั้งว่าข้านี่แหละ ‘ของจริง’ หลังจากที่ปีก่อนเพิ่งพาทีมทำเซอร์ไพรส์ คว้า แชมเปี้ยนส์ ลีก มาแล้ว ก่อนจะมาโชว์โหดสานต่อในฤดูกาลนี้ ไล่ตบทุกทีมในช่วงครึ่งแรกของฤดูกาล ทำแต้มนำห่างทีมอื่นแบบแชมป์นอนมา
ทำให้การสะดุดบ้างในช่วงโค้งท้ายของฤดูกาล ไม่ได้ทำให้แฟนบอลหวาดเสียวแม้แต่น้อย สานฝันบรรดา ‘เดอะ ค็อป’ ที่รอคอยมาแสนนานได้สำเร็จ

‘เลสเตอร์ ซิตี้’ ทีมที่ชอกช้ำไม่แพ้ทีมตกชั้นในฤดูกาลนี้ จากการที่พ่ายแพ้คาบ้านให้ แมนฯยูไนเต็ด 2-0 ทำให้พวกเขาชวดโอกาสได้ไปโกยเงินใน แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลหน้า ซึ่งแม้ว่า เบรนแดน รอดเจอร์ส จะออกมาปฏิเสธว่าเขาและลูกทีม มาไกลเกินเป้าหมายแล้วเพราะขอแค่ได้ไปเล่นในรายการยุโรป แต่พูดไปใครจะเชื่อล่ะครับ
ก็พวกเขาเล่นโชว์ฟอร์มกันได้อย่างสุดยอด ไล่บี้แย่งแชมป์ด้วยซ้ำในช่วงต้นฤดูกาล ก่อนจะดร็อปลงมากลายเป็นทีมเต็ง 3 ในช่วงกลางฤดูกาล เพราะนำโด่งทีมข้างล่างเกือบ 20 แต้ม
แต่จากการทำแต้มหกเรี่ยราดในช่วงท้ายฤดูกาล ทำให้จิ้งจอกสีน้ำเงิน ถูก เชลซี และ แมนฯ ยูไนเต็ด ปาดหน้าไปในสองเกมสุดท้ายอย่างน่าเสียดาย
ตราบาปของเกมนี้ คือจังหวะที่ ‘แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล’ ถูกมหาเทพ ‘เจสซี่ ลินการ์ด’ ฉกบอลจากเท้าไปยิงประตูฝังดิน ส่ง ปีศาจแดง ‘มิชชั่น คอมพลีท’ จบอันดับ 3 ซึ่งถือว่าเป็นอันดับที่สวยงามเหนือการคาดการณ์ของหลายฝ่ายหากนับจากก่อนเริ่มฤดูกาล
เพราะ โซลชาร์ เพิ่งจะได้ ‘รีบิวท์’ ทีมจริง ๆ จัง ๆ เป็นปีแรก แต่กุนซือหน้าหยกก็สามารถพาเหล่าลูกกรอกคะนองผ่านวิกฤตนี้มาได้สำเร็จ ไปสู้กันต่อในฤดูกาลหน้า

‘เชลซี’ ทีมที่หลายคนมองว่า ‘งานหยาบ’ นับตั้งแต่บุกไปถูก ‘ลิเวอร์พูล’ โชว์ความเคี่ยวของทีมแชมป์ อัดกลับบ้านไป 5-3 เพราะแลมพาร์ดยังต้องพาทีมไปเจอกับทีมที่เก่งกับทีมใหญ่อย่าง ‘วูล์ฟแฮมป์ตัน’ ที่เต็มไปด้วยนักเตะโปรตุกีส คอนเนคชั่น เก่ง ๆ อยู่มากมาย และพวกเขาก็ต้องการ 3 แต้มอย่างมาก เพื่อตีตั๋วไปเล่น ยูโรป้า ลีก ในปีหน้า
แต่ ‘สิงห์บลู’ ทำได้ครับ เกมที่ ‘สแตมฟอร์ด บริดจ์’ ควรจะจบครึ่งแรกที่สกอร์ 0-0 แต่ 2 ประตูในช่วงทดเจ็บจาก ‘เมสัน เมาท์’ และ ‘โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์’ ทำให้กลายเป็นงานง่ายไปเลยสำหรับ เชลซี
เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่า ทีมของกุนซืออย่าง นูโน่ ไม่ใช่ทีมที่จะยิงคู่แข่งไส้ทะลักในเกม ๆ เดียว และเมื่อถูกนำไปก่อนถึง 2 ประตูในเกมตัดสินอนาคตของสิงห์บลู จึงทำให้ประตูสู่ยูโรป้าของทีมหมาป่าแทบจะปิดไปตั้งแต่จบครึ่งแรก

ปิดท้ายกันที่ทีม ‘เรือใบสีฟ้า’ แมนฯซิตี้ ที่ไล่ถล่มคู่แข่งอีกเช่นเคย โดยเหยื่อในเกมสุดท้ายได้แก่ นอริช ซิตี้ ที่โดนถลุงไปถึง 5-0 ปิดฉากส่งท้ายกันไปอย่างชอกช้ำ ถือเป็นการอำลา ‘ดาวิด ซิลบา’ ที่เป็นนักเตะขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกความยิ่งใหญ่ของ แมนฯ ซิตี้ ลงอย่างสวยงาม หลังจากอยู่กับทีมมาอย่างยาวนานครบรอบทศวรรษถึง 10 ปี ด้วยกัน
ติดตามข่าวฟุตบอลข่าวนักเตะและติดตามข่าว อันโตนิโอ คอนเต้ รับเจอเซบีญ่างานหิน พาอินเตอร์ลุ้นแชมป์แรกรอบ 10 ปี