ดอร์ทมุนด์ ชนะ โวล์ฟบวร์ก 6-1 ตามฝูง 9 แต้ม

“เสือเหลือง” ดอร์ทมุนด์ รองจ่าฝูง ลงสนามใน บุนเดสลีก้า 2021/22 เกมที่ 30 พวกเขาเปิดสนาม ซิกนัล อาดูน่า ปาร์ค พร้อมด้วยแฟนบอล 79,200 คน รับการมาเยือนของ “หมาป่า” โวล์ฟบวร์ก ทีมอันดับ 13

“เสือเหลือง” เป็นฝ่ายครองบอล 59.6% พร้อมโอกาสยิง 12 ครั้ง พวกเขาขยับออกนำ 1-0 หลังผ่าน 24 นาที จากการยิงของ ทอม โรเธ จากนั้นสกอร์ไหลตามมาอีก 4 ลูกรวด จากการยิงของ อักเซล วิตเซล , มานูเอล อคานยี่ , เอ็มเร่ ชาน และ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ทำให้จบ 45 นาทีแรก “เสือเหลือง” ทิ้งขาด 5-0 ครึ่งเวลาหลัง เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ บวกประตูที่ 2 ของตัวเอง ส่งทีมขยับหนี 6-0 ก่อนที่ รีเดิ้ล บากู จะยิงให้ “หมาป่า” ไล่มาเป็น 1-6 และสุดท้ายจบ 90 นาทีด้วยสกอร์นั้น

ดอร์ทมุนด์ ยึดรองจ่าฝูง ตาม 9 แต้ม

หลังผ่านเกมที่ 30 ดอร์ทมุนด์ เก็บเพิ่มเป็น 63 คะแนน ข่าวฟุตบอลยึดตำแหน่งรองจ่าฝูงเอาไว้ตามเดิม ไล่หลังจ่าฝูง บาเยิร์น มิวนิค 9 คะแนน ซึ่งเกมนัดต่อไป ทั้งสองทีมต้องมาเจอกันเอง ในวันที่ 23 เมษายน ซึ่งลูกทีมของ มาร์โก โรเซอ มีทางเลือกเดียวคือต้องชนะ เพื่อลดช่องว่างให้เหลือ 6 คะแนน และหากผลเป็นอย่างอื่น “เสือใต้” จะคว้าแชมป์ไปครองทันที

ทางฝั่ง “หมาป่า” โวล์ฟบวร์ก หลังผ่าน 30 นัด พวกเขามี 34 คะแนนเท่าเดิม ยืนอันดับ 13 ตามเดิม ห่างจากโซนตกชั้น 6 คะแนน โดยโปรแกรมเกมที่ 31 ลูกทีมของ ฟลอเรียน โคห์เฟลด์ เตรียมเปิดบ้านรับมือ ไมนซ์ ในวันที่ 22 เมษายน

สถิติหลังเกม | ดอร์ทมุนด์6-1โวล์ฟบวร์ก

ดอร์ทมุนด์ ครองบอล 59.6% (โวล์ฟบวร์ก 40.4%) | จ่ายบอล 548:359 ครั้ง | จ่ายบอลสำเร็จ 490:285 ครั้ง | โอกาสยิง 12:10 ครั้ง | ยิงเข้ากรอบ 8:4 ครั้ง | ยิงชนเสา-คาน 0:1 ครั้ง | เลี้ยงผ่าน 10:12 ครั้ง | ชนะลูกกลางอากาศ 7:5 ครั้ง | ปะทะชนะ 13:17 ครั้ง | เตะมุม 4:6 ครั้ง | ตัดบอล 10:9 ครั้ง | เคลียร์บอล 26:13 ครั้ง | ฟาล์ว 13:9 ครั้ง | ล้ำหน้า 6:0 ครั้ง | ใบเหลือง 0:2 ใบ

ไทม์ไลน์สำคัญของเกมดอร์ทมุนด์

• 24′ | 1-0 ทอม โรเธ (ยิง) | ยูเลี่ยน บรันด์ (แอสซิสต์)
• 26′ | 2-0 อักเซล วิตเซล (ยิง) | เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ (แอสซิสต์)
• 28′ | 3-0 มานูเอล อคานยี่ (ยิง) | มาร์โก รอยส์ (แอสซิสต์)
• 34′ | 4-0 เอ็มเร่ ชาน (ยิง) | มาริอุส โวล์ฟ (แอสซิสต์)
• 38′ | 5-0 เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ (ยิง) | มาร์โก รอยส์ (แอสซิสต์)
• 54′ | 6-0 เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ (ยิง) | ยูเลี่ยน บรันด์ (แอสซิสต์)

เปลี่ยนตัว : ยูโซฟา มูโกโก้ แทน ยูเลี่ยน บรันด์ (65′) , มาร์วิน พอนกราซิซ แทน มานูเอล อคานยี่ (65′) , เรียนเนียร์ แทน อักเซล วิตเซล (78′) , ลีออน เซมิซ แทน มาริอุส โวล์ฟ (88′) , เจมี่ บีโน กิตเท่น แทน ทอม โรเธ (88′)

โวล์ฟบวร์ก

• 81′ | 1-6 รีเดิ้ล บากู (ยิง)
• ใบเหลือง : รีเดิ้ล บากู (33′) , ยานนิค เกอร์ฮาร์ด (41′)

เปลี่ยนตัว : เควิน เอ็มบาบู แทน แม็กเซนซ์ ลาโครอิกซ์ (45′) , เยโรม รูสซิญอน แทน แม็กซ์ ครูเซ่น (46′) , แอสเตอร์ แฟร็งซ์ แทน ซาเวอร์ ชลาเกอร์ (62′) , เฟลิกซ์ เอ็นเมช่า แทน ลูคัส เอ็นเมช่า (62′) , บาร์ตอสซ์ เบียเล็ค แทน โยนาส ไวนด์ (82′)

• “นักฟุตบอล” ที่เลือกแขวนสตั๊ด กับทีมที่พวกเขาลงเล่นเป็นทีมแรกในชีวิต
• เอซี มิลาน บุก เฉือน กาญารี่  นำจ่าฝูง เซเรียอา
• อาร์เซนอล บุกชนะ วิลล่า 0 – 1 รั้งอันดับ 4 ของตาราง
• เรอัล มาดริด สะดุ้ง แม่ “เอ็มบั๊ปเป้” เรียกเงินกินเปล่าก้อนโตแลกลายเซ็นลูกชาย